ชวนเที่ยว 5 Unseen แห่งใหม่ในภาคใต้

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวแห่งใหม่อยู่ เราขอแนะนำ Unseen แห่งใหม่ของเมืองไทย อยู่ไม่ไกล แค่ภาคใต้ของประเทศไทย

ขึ้นชื่อรวมแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกมาแล้วหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือแหล่งท่องเที่ยงอิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพราะความสวยงามตามธรรมชาติของ 2 ฝั่งทะเล ทั้งทะเลอ่าวไทย และทะเลอันดามัน และหมู่เกาะต่าง ๆ อีกมากมาย ที่คอยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย กลายเป็นจุดหลักในการสร้างเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ 

ทาง ททท . (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ได้จัดแคมเปญ “Unseen New Chapters : ปักหมุดมุมใหม่ เปิดไทยมุมต่าง” โดยได้คัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของภาคใต้เข้าร่วมแคมเปญ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ และแนะนำสถานที่เที่ยวสวยแปลกตาให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติได้ไปร่วมสัมผัส แต่จะมีที่ไหนบ้าง เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้จดลิสต์ แล้วเตรียมตัวออกไปลุย! 

1. หมู่เกาะกำ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง 

หมู่เกาะกำ อยู่ที่ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง โดยหมู่เกาะกำมีเกาะมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว มีอยู่ 3 เกาะด้วยกัน ได้แก่ 

1. เกาะกำตก ลักษณะของเกาะโค้งติดกันเป็นรูปวงกลมท ชายหาดเป็นเนื้อทรายเนียนละเอียด สีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าใสของน้ำทะเล ซึ่งสามารถลงเล่นน้ำทะเลได้โดยรอบเกาะ 
2. เกาะค้างคาว ซึ่งเกาะนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของค้างคาวแม่ไก่นับพันตัว โดยบริเวณหน้าเกาะมีหาดทรายสีขาวละเอียดนุ่ม และน้ำทะเลใสจนมองเห็นปะการังใต้น้ำได้อย่างชัดเจน สามารถดำน้ำชมปะการังได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึกทั่วรอบ 
3. เกาะญี่ปุ่น ที่ได้ชื่อว่าเกาะญี่ปุ่น เนื่องจากมีเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง บ้างก็ว่าเคยมีชาวญี่ปุ่นมาเลี้ยงหอยมุก แต่บ้างก็ว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่ประกอบอาหารส่งเสบียงให้ทหารญี่ปุ่นช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยบริเวณรอบเกาะเป็นแนวชายหาด ทรายขาวละเอียด มีภูเขาเล็ก ๆ บริเวณหน้าเกาะ สามารถดำน้ำชมปะการัง และปลาสวยงามหลายชนิดได้รอบเกาะ 

หมู่เกาะกำยังคงไว้ซึ่งความสวยงามธรรมชาติอยู่มาก มีความเงียบสงบ และอุดมสมบูรณ์ โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเกาะใช้ชีวิตแบบวิถีดั้งเดิม ทำให้ทั้ง 3 เกาะถูกเรียกรวมกันว่า หมู่เกาะหลงยุค สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติ และพิสูจน์การหลงยุคได้ด้วยตัวเอง แนะนำช่วงที่น่าเที่ยวหมู่เกาะกำ คือ ช่วงเดือนตุลาคม – เดือนพฤษภาคม ของทุกปี 

2. รอยพระพุทธบาทในทะเล สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร อ.เมือง จ.ภูเก็ต 

ที่นี่มีรอยพระพุทธบาทบนหาดทรายในทะเล ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาท 1 ใน 5 ที่ได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลก โดยเป็นรอยที่ 5 นาม “นัมมทานที” ประทับอยู่บนหาดทราย ณ สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร จะไม่สามารถมองเห็นรอยพระพุทธบาทได้เมื่อน้ำขึ้นสูง แต่จะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อน้ำทะเลลดลง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดปี ยกเว้นช่วงมีมรสุม 

3. อุทยานธรรมเขานาในหลวง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี 

อุทยานธรรมเขานาในหลวง เป็นสำนักสงฆ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้าน ไฮไลต์ของที่นี่คือ เจดีย์บนยอดเขาสูง อันได้แก่ เจดีย์ร้อยยอดพันองค์ เจดีย์ลอยฟ้าพุทธราชาวดี เจดีย์ลอยฟ้าพุทธศิลาวดี ซุ้มประตู เมื่อยามมีทะเลหมอก ทำให้เจดีย์ทุกองค์ดูเหมือนลอยอยู่บนก้อนเมฆ กลายเป็นเจดีย์ลอยฟ้าที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อีกทั้งเมื่อแสงแดดยามเช้าส่องกระทบซุ้มประตูพุทธวดี ดูวิจิตตระการตา เสมือนประตูแห่งกาลเวลา ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นดั่งสวรรค์บนดิน สามารถไปเยี่ยมชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์นี้ได้ตลอดทั้งปี 

4. หินพับผ้า อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช 

ผาหินแปลกตากลางทะเลขนอม “หินพับผ้า” หรือ “Pancake Rock” เนื่องจากลักษณะของแผ่นหินซ้อนเรียงกันเป็นชั้น ๆ ดูคล้ายกับผ้าที่พับซ้อนกัน เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่หาได้ยาก และมีเพียงไม่กี่แห่งในโลก เป็นอีกอันซีนที่สวยงามทางธรรมชาติของเมืองนครศรีฯ การไปเที่ยวและเยี่ยมชม ต้องเช่าเรือที่ชุมชนแหลมประทับ สามารถไปเที่ยวได้ตลอดปี แต่ช่วงที่แนะนำคือ เดือนมกราคม – เดือนเมษายน 

5. เกาะตะรุเตา อ.เมือง จ.สตูล 

ตะรุเตา เกาะแห่งตำนานและคำกล่าวขาน เรื่องราวโจรสลัด ถ้ำลับที่เก็บซ่อนทรัพย์สมบัติ สัตว์ร้าย และต้นไม้พิษนานาพันธุ์ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีความผสมผสาน มีความเงียบสงบสูง ทำให้มีสัตว์หายาก และพืชพรรณแปลก ๆ และที่เกาะตะรุเตายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เคยเป็นสถานกักกันตัวนักโทษ เป็นที่มาของตำนาน โจรสลัดแห่งตะรุเตา ได้มีการนำเรื่องเล่าจากที่แห่งนี้ไปแต่งเป็นนิยาย และสร้างเป็นภาพยนต์มาแล้วมากมาย

ด้วยความเงียบสงบ ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ ผนวกกับมนต์ขลังแห่งตำนาน ทำให้เป็นอีกสถานที่น่าสนใจ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองสตูล แนะนำช่วงที่น่าเที่ยวเกาะตะรุเตา คือ ช่วงเดือนตุลาคม – เดือนพฤษภาคม ของทุกปี