ทำไมเราต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม?

• ผลกระทบจากการกระทำของเรา:
  • ทุกการกระทำของเรามีผลต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากร หรือการทิ้งขยะ
  • เราต้องตระหนักว่าเรากำลังทำร้ายสิ่งแวดล้อมรอบตัว
• ตัวอย่างปัญหาสิ่งแวดล้อม:
  • Fast Fashion: การผลิตเสื้อผ้าแบบรวดเร็วที่ทำให้โรงงานไม่เคยหยุดพัก
  • การใช้พลาสติก: การใช้พลาสติกอย่างฟุ่มเฟือยในชีวิตประจำวัน
  • ขยะอาหาร: การไม่เห็นคุณค่าอาหารและการทิ้งขยะอาหาร

การเปลี่ยนแปลงที่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน

การที่เราตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เรารู้สึกผิด แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อม

• ลดการซื้อเสื้อผ้า:
  • หยุดการซื้อเสื้อผ้าโดยไม่จำเป็น
  • พิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าใหม่
  • ซื้อตามความจำเป็น หรือเมื่อพบว่าเราต้องการจริงๆ เท่านั้น
• การใส่เสื้อผ้าให้คุ้มค่า:
  • เลือกเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ ใช้ได้นาน และทนทาน
  • หากไม่ได้ซื้อเสื้อผ้ามานานกว่า 4-5 เดือน อาจพิจารณาซื้อสักตัว
• การบริจาคเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว:
  • รื้อหาเสื้อผ้าที่ยังอยู่ในสภาพดีแต่ไม่ค่อยได้ใส่
  • นำไปบริจาคตามที่ต่างๆ เพื่อหมุนเวียนทรัพยากร

การลดขยะและรักษ์โลกในชีวิตประจำวัน

การรักษ์โลกเริ่มต้นได้จากการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายวิธี แม้ว่าจะมีอุปสรรคและความท้าทาย แต่ก็เป็นสิ่งที่เราควรทำเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

การลดการใช้พลาสติกและการแยกขยะ

เราเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม

• การพกพากล่องอาหาร แก้วน้ำ และถุงผ้า:
  • กล่องอาหาร: ใช้แทนการขอถุงพลาสติกเมื่อซื้ออาหาร
  • แก้วน้ำ: ใช้แทนการซื้อเครื่องดื่มในขวดพลาสติก
  • ถุงผ้า: ใช้สำหรับซื้อของแทนถุงพลาสติก
• การหิ้วปิ่นโตไปซื้อกับข้าว:
  • ลดการใช้ถุงพลาสติกในการซื้ออาหาร
• การรีไซเคิลขยะ:
  • เก็บกล่องพลาสติก ขวดพลาสติก และแก้วพลาสติก ล้างให้สะอาด และนำไปบริจาคหรือแยกขยะเพื่อรีไซเคิล
  • การแยกขยะที่บ้าน:
    • ขยะรีไซเคิล: กระดาษ, พลาสติก, แก้ว, โลหะ
    • ขยะอันตราย: ถ่านไฟฉาย, อุปกรณ์ไฟฟ้า
    • ขยะเปียก: เศษอาหาร, เปลือกผักผลไม้
    • ขยะทั่วไป: ขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลหรือหมักได้
• การจัดการขยะเปียก:
  • ใส่ถุงขยะ 2 ชั้นเพื่อป้องกันกลิ่นและน้ำซึม

ความท้าทายในการแยกขยะและทำปุ๋ยหมัก

การแยกขยะและการทำปุ๋ยหมักมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ

• ปัญหาของการทำปุ๋ยหมัก:
  • กลิ่นไม่พึงประสงค์: กลิ่นรบกวนจมูกและเพื่อนบ้าน
  • แมลงและมด: การดึงดูดแมลงและมดมา
  • ใช้เวลานาน: ใช้เวลาหลายเดือนในการทำปุ๋ยหมักให้เสร็จ
  • พื้นที่จำกัด: พื้นที่เล็กในห้องเช่า

นวัตกรรมที่ช่วยลดขยะ: Hass Thailand ถังหมักเศษอาหาร

ถังหมักเศษอาหารของ HASS Thailand หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า “เครื่องย่อยเศษขยะอาหาร” เป็นนวัตกรรมที่ช่วยจัดการขยะเศษอาหารที่เหลือทิ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ฟังก์ชันของเครื่องย่อยเศษอาหาร:
  • การทำงาน: เสียบปลั๊กแล้วใส่เศษอาหารที่เหลือทิ้งลงไป หรือเปลือกผักผลไม้ต่างๆ หลังจากที่เราทำสมูทตี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
  • การแยกของเหลว: แยกน้ำออกจากขยะก่อนใส่เครื่อง
  • การทำปุ๋ย: เปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ยอย่างดีภายใน 24 ชั่วโมง
• ข้อดีของเครื่องย่อยเศษอาหาร:
  • ไม่มีกลิ่น: ลดปัญหากลิ่นรบกวน
  • สะดวกและรวดเร็ว: ใช้งานง่ายและได้ปุ๋ยเร็ว
  • ขนาดกะทัดรัด: เหมาะสำหรับใช้ภายในบ้านแม้มีเนื้อที่ใช้สอยไม่มากนัก
  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: ลดการใช้ถุงขยะ และแรงงานในการคัดแยกขยะ

สรุป

การรักษ์โลกเริ่มต้นจากการทำสิ่งเล็กๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การพกพาถุงผ้าที่ช่วยลดการใช้พลาสติก การแยกขยะอย่างถูกต้อง และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยในการรีไซเคิลขยะอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าอุปสรรคและความท้าทายจะมีมากมาย แต่การทำสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกดีที่ได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และช่วยให้โลกของเราดีขึ้น

The post การลดขยะและนวัตกรรมที่ช่วยลดขยะในชีวิตประจำวัน appeared first on PolicyAndResearchHub.

SEO คืออะไร 

SEO หรือ Search Engine Optimization คือกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงและปรับแต่งเว็บไซต์ เพื่อให้เหมาะสมและเข้าใจได้ง่ายกับเครื่องมือค้นหา เช่น Google, Bing, Yahoo เป็นต้น ซึ่งเป้าหมายหลักของ SEO คือเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และเพิ่มโอกาสในการปรากฎในผลการค้นหาในตำแหน่งที่สูงขึ้น

การทำ SEO มีหลายด้านที่ควรใส่ใจ เช่น  

1. การค้นหาคำค้น

การวิเคราะห์และเลือกใช้คำค้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเนื้อหาของเว็บไซต์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้.

2. การเขียนเนื้อหา

การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ โดยใช้คำค้นอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ

3. โครงสร้างเว็บไซต์

การปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงและการนำทางที่ดี

4. การออปไทม์ไซต์ Optime Site

การปรับแต่งรายละเอียดเทคนิคต่าง ๆ บนเว็บไซต์ เช่น การใช้ meta tags, การปรับขนาดรูปภาพ, ความเร็วในการโหลดเว็บ, และการปรับปรุงประสิทธิภาพของโค้ด

5. การสร้างลิงก์

การสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์อื่น ๆ ผ่านการสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

ขั้นตอนการทำ SEO 

การทำ SEO ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

1. การวิเคราะห์และค้นคว้าคำค้นหา (Keyword Research)

• การค้นหาคำค้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเนื้อหาของเว็บไซต์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้

• ใช้เครื่องมือดัง Google Keyword Planner หรือ SEMrush เพื่อหาคำค้นที่เหมาะสม

2. การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า (Content Creation)

• สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ โดยใช้คำค้นอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ

• รักษาการอัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความน่าสนใจและความเข้าใจของผู้ใช้

3. การปรับปรุงเว็บไซต์ (On-Page Optimization)

• ปรับแต่งแต่ละหน้าของเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา โดยใช้คำค้นในชื่อหัวข้อ คำอธิบาย Meta และโครงสร้าง URL

• ตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีการนำทางที่ง่าย โหลดเร็ว และเป็นมือถือได้

4. การสร้างลิงก์ (Link Building)

• รับลิงก์ที่มีคุณภาพจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือและความสำคัญของเว็บไซต์ของคุณ

• ให้ความสำคัญกับการสร้างลิงก์อย่างธรรมชาติผ่านการเขียนบทความแขกหรือการสร้างเนื้อหาที่เป็นที่ชื่นชอบ.

5. เทคนิค SEO ด้านเทคนิค (Technical SEO)

• ให้ความสำคัญกับด้านเทคนิคเช่นความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์ ความเป็นมือถือได้ และการแก้ไขลิงก์ที่เสีย

• สร้างแผนผังเว็บไซต์เพื่อช่วยเครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์

6. การติดตามและวิเคราะห์ (Monitoring and Analysis)

• ติดตามผลการทำ SEO ของเว็บไซต์โดยใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics เพื่อติดตามการเข้าชมโดย organically, การจัดอันดับของคำค้น และพฤติกรรมของผู้ใช้

• วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าใจว่ามีส่วนไหนที่ดีและมีส่วนที่ต้องปรับปรุง และปรับกลยุทธ์ตามความเหมาะสม

7. การทำงานต่อเนื่องและปรับปรุง (Continuous Improvement)

• SEO เป็นกระบวนการที่ต้องติดตามและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เน้นการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม แนวโน้มใหม่ ๆ และกฎข้อแนะนำที่ดีที่สุด

• การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องมีความตั้งใจและความพยายามอย่างต่อเนื่อง เป็นการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจและความเชื่อถือสูงในทางเส้นตรงของผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาต่าง ๆ

ข้อดีของการทำ SEO 

การทำ SEO มีข้อดีต่อธุรกิจ ดังนี้ 

1. เพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ 

SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปราศจากการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นทางการ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้

2. เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา 

การปรับปรุง SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฎในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาต่าง ๆ อย่าง Google, Bing อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. เพิ่มการเข้าถึงข้อมูล 

การทำ SEO ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณจากกลุ่มเป้าหมาย ผู้ใช้งานที่มีความต้องการและค้นหาข้อมูลในแนวทางเดียวกัน

4. ลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา 

การทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับสูง ๆ ในผลการค้นหา ซึ่งส่งผลให้ลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาอื่น ๆ

5. สร้างโอกาสการเพิ่มยอดขาย

การค้นหาที่มีคุณภาพ ติดอันดับการค้นหาสูง ช่วยดึงดูดความสนใจให้คนคลิกเข้าไปเว็บไซต์ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา สร้างโอกาสเพิ่มลูกค้าจากคนเข้าชม เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้มากขึ้น

6. การต่อสู้กับคู่แข่ง

การปรับปรุง SEO เป็นการพัฒนาตัวของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีโอกาสมากกว่าหรือเทียบคู่แข่งในตลาด

7. การสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดี

SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสที่ดีในการเสนอประสบการณ์ใช้งานแก่ผู้เยี่ยมชม

8. การเสริมสร้างความน่าสนใจ

การปรับปรุง SEO ช่วยให้เนื้อหาของเว็บไซต์มีความสนใจและมีคุณค่าสำหรับผู้ใช้

9. วัดคุณภาพเว็บไซต์และปรับปรุงผลการทำงาน

SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถวัดและปรับปรุงผลการทำงานในทิศทางต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

10. เพิ่มความยั่งยืนของธุรกิจ

การปรับปรุง SEO ช่วยให้ธุรกิจมีความยั่งยืนและสามารถเผยแพร่ต่อไปในระยะยาวได้

จากที่กล่าวมาทั้งหมดในบทความนี้ จึงสรุปได้ว่า การทำ SEO เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างและบริหารจัดการเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดี 

The post SEO คืออะไร ขั้นตอนการทำ SEO และ ข้อดีของการทำ SEO appeared first on PolicyAndResearchHub.

สังคมผู้สูงอายุ หมายถึง กลุ่มคนวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงจากสังคมผู้สูงอายุ (againg society) สู่สังคมผู้อายุโดยสมบูรณ์อย่างเต็มรูปแบบ (complete aged society) เมื่อปี พ.ศ.2565 ภายใน 19 ปี เท่านั้น จาก 22% ในปี พ.ศ. 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 26% ในปี พ.ศ. 2563 จากประชากรไทยทั้งหมด 

เมื่อกลุ่มผู้สูงวัยครองเมือง ย่อมส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโลก ทั้งในส่วนของสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทำให้ Silver Economy คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ สินค้า และกิจกรรมที่จะมารองรับความต้องการและความจำเป็นของกลุ่มลูกค้าสูงวัย เป็น เศรษฐกิจสีเงิน หรือ เศรษฐกิจผู้สูงวัย ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 55 – 69 ปี ซึ่งมีมากกว่า 7 ล้านคนในจำนวนประชากรทั้งหมด

แนวโน้มธุรกิจสำหรับผู้สูงวัย 

ธุรกิจสำหรับกลุ่มเศรษฐกิจสูงวัย  สามารถแบ่งเป็น 6 ธุรกิจหลัก ๆ ได้ดังนี้ 

• สุขภาพ อาจเป็นการตั้งธุรกิจใหม่ทั้งหมด หรือ ขยายบริการจากธุรกิจที่มีอยู่แล้ว เช่น บริการการดูแลผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ดูแลด้านสุขภาพ อุปกรณ์ออกกำลังกล้ามเนื้อ เป็นต้น 
• อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น รถเข็นไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ติดตามตัว อุปกรณ์การช่วยเหลือทางการแพทย์ 
• อสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยที่ตอบรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้สูงวัย เช่น บ้านพักคนชรา ชุมชนผู้สูงอายุ 
• สันทนาการและการพัฒนาตนเอง กิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุได้ร่วมแสดงความคิดเห็น พัฒนาฝีมือ หรือรวมกลุ่มเป็นสังคม เช่น การเรียนรู้งานฝีมือ การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงวัย 
• ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต การประกันภัย สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) 
• ที่ปรึกษาด้านกฏหมาย ทนายจัดการมรดก การจัดทำเจตจำนงในการดำรงชีวิต เป็นต้น 

สาเหตุของปัญหาสังคมผู้สูงอายุ 

• การพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจ มีความเจริญก้าวหน้า พัฒนาทางด้านสาธารณสุข อนามัย โรงพยาบาล และการคมนาคมได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น มีการบริโภคที่ถูกหลักโภชนาการ รู้จักดูแลสุขอนามัย ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ทีดีมีอายุยืนขึ้น 
• ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถพัฒนาด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ มีวัตกรรมใหม่ ๆ ช่วยควบคุมและรักษาโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ประชากรมีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาวขึ้น 
• นโยบายการวางแผนครอบครัว – การควบคุมการมีบุตร นโยบายการวางแผนครอบครัว และการควบคุมการมีบุตร ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ เพราะการมีบุตรมากอาจกลายเป็นภาระและอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ทำให้หลายประเทศมีนโยบายวางแผนการมีบุตร และควบคุมอัตราการเกิด จึงส่งผลให้มีจำนวนประชากรผู้สูงอายุมากขึ้น จนเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในที่สุด 

เมื่อสังคมโลก รวมถึงประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ Complete aged society อย่างเต็มรูปแบบ ย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางเศรษฐกิจ ที่ทางผู้ผลิตและนักการตลาดไม่ควรมองข้าม และยิ่งต้องเร่งนำมาต่อยอดธุรกิจเพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อมากเป็นอันดับต้น ๆ อย่างกลุ่ม Silver Generation เพราะถ้าคิดช้า ทำช้า อาจก้าวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงกับยุค “ผู้สูงวัยครองเมือง” 

The post Silver Economy ธุรกิจในยุคเศรษฐกิจผู้สูงวัยครองเมือง appeared first on PolicyAndResearchHub.

1. ซื้อตั๋วช่วง Prime Booking Window 

การซื้อตั๋วเครื่องบินโดยปกติ หากทำการจองหรือซื้อใกล้ ๆ วันเดินทาง ย่อมจะมีราคาแพงมาก ๆ อยู่แล้ว แต่บางครั้งเราก็ไม่ได้แพลนไว้ล่วงหน้านานขนาดข้ามปี หรือบางทีจ่ายเงินซื้อล่วงหน้านานมาก แต่ก็ทริปล่มไม่ได้เดินทาง ทำให้เสียดายเงินแบบสุด ๆ กระซิบดัง ๆ เลยว่า ช่วงเวลาที่จะได้ราคาตั๋วเครื่องบินดีที่สุด คือ ซื้อตั๋วเครื่องบินในช่วง ระหว่าง 16 วัน – 3 สัปดาห์ ก่อนเดินทาง เรียกเวลาดังกล่าวว่า “Prime Booking Window” หากเลยช่วงนี้ไปจนถึงใกล้วันเดินทางเรื่อย ๆ ตั๋วเครื่องบินราคาแพงขึ้นแน่นอน 

2. Google Flight ช่วยได้ 

ทริคในข้อนี้ ต้องพึ่งระบบ Google ในการเข้ามาช่วยกู้ราคาตั๋วเครื่องบิน ด้วยการพิมพ์ขื่อเมืองต้นทาง และ เมืองปลายทาง พร้อมกับวันเดินทาง ลงไปในช่องค้นหาของ Google Flight จากนั้นระบบจะช่วยเปรียบเทียบราคาตั๋วจากหลาย ๆ สายการบินให้เลือก 

3. ซื้อตั๋ววันอังคาร

ตามสถิติของเว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบิน ส่วนใหญ่ตั๋วเครื่องบินราคาดีที่สุด มักจะเป็นช่วง 15.00 น. ของวันอังคาร เพราะสายการบินหลาแห่งมักจะออกโปรโมชันช่วงเย็นวันจันทร์ ส่งผลให้มีการแข่งขันเรื่องของโปรโมชันระหว่างสายการบินค่อนข้างสูง ทำให้วันอังคารช่วงบ่ายกลายเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูกลงนั่นเอง 

4. เลือกใช้บริการสนามบินรอง 

สนามบินหลัก ๆ หรือสนามบินใหญ่ ๆ ที่มีการรองรับสายการบินทั่วโลก ทำให้ traffic เยอะ จึงมีราคาสนามบินแพงมาก แต่สำหรับเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก ก็มักจะมีสนามบินรองรับผู้โดยสารมากกว่า 1 แห่ง โดยไม่จำเป็นต้องเลือกลงสนามบินหลัก แต่อาจไปเลือกใช้บริการสนามบินรองแทน ซึ่งจะช่วยให้ได้ราคาตั๋วที่ถูกกว่า แถมไม่ต้องเสียเวลาในการรอกระเป๋านาน และแถวรอตรวจคนเข้าเมืองก็น้อยกว่า ทำให้สามารถเข้าไปเที่ยวในเมืองได้ไวกว่าอีกด้วย 

5. เดินทางช่วง Off – Peak 

ช่วง Off – Peak คือ ช่วงเวลาที่คนไม่ค่อยนิยมเดินทางเท่าไร ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อน 09.00 น. อาจเป็นช่วงเช้ามาก ๆ หรือไม่ก็ตอนดึก ๆ ไปเลย และเลือกวันธรรมดา ช่วงวันจันทร์ – พฤหัสบดี หรือวันศุกร์ แทนวันสุดสัปดาห์อย่าง วันเสาร์ หรือ วันอาทิตย์ แต่ถ้าจำเป็นต้องเดินทางในช่วง weekend จริง ๆ เลือกเดินทางวันเสาร์ ก็อาจได้ตั๋วถูกกว่าวันอาทิตย์ เพราะราคาตั๋วเครื่องบินจะเริ่มแพงขึ้น โดยเรียงตามลำดับ วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ 

6. ปิด Cookies 

เมื่อจะทำการเช็กราคาตั๋วเครื่องบิน แนะนำให้ปิดการใช้งาน Cookies ก่อน เพราะหลาย ๆ เว็บไซต์ที่มักจะทำการ Collect data เก็บข้อมูลการเข้าดูไฟล์ท ยิ่งถ้าเป็นการเข้าไปดูไฟล์ทเดิม หรือเส้นทางเดิมบ่อย ๆ ระบบจะดีดราคาตั๋วขึ้นมาทันที ทำให้ได้ราคาตั๋วแพงขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น ควรทำการปิดคุ้กกี้ของเว็บก่อนเสมอ 

วิธีปิดการใช้ Cookies

• เข้าไปที่ตั้งค่าของเว็บไซต์ 
• ค้นหา cookies
• เลือก Block third – party cookies 

เพียงเท่านี้ก็ทำการปิด cookies ของเว็บไซต์ได้แล้ว สามารถค้นหาได้ตามปกติ อาจช่วยทำให้เจอราคาตั๋วที่ดีที่สุด 

7. ซื้อตั๋วแบบ One – way 

บางครั้ง การซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียว หรือ One way อาจได้ราคาตั๋วถูกกว่าการซื้อตั๋วแบบ Round trip ที่เป็นตั๋วแบบไป – กลับ นอกจากนี้ การเลือกนั่งเครื่องบินแบบต่อเครื่องระหว่างทาง หรือที่เรียกว่า Transfer อาจทำให้ต้องแวะจุดต่อเครื่องประมาณ 2 – 3 ชม. แต่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เซฟค่าตั๋วถูกกว่าการบินตรง (Direct flight) แน่นอน 

8. Low – cost อาจไม่ได้ถูกเสมอไป 

ตั๋ว Low – cost ที่จัดโปรโมชั่นส่วนใหญ่ ไม่มีบริการน้ำหนักกระเป๋า คือ ไม่รวมน้ำหนักกระเป๋า แต่คิดเฉพาะค่าเดินทางเท่านั้น จะต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเดินทางแยกต่างหาก รวมไปถึงการเลือกอาหาร และที่นั่ง ที่จะต้องคำนวณราคาแยกซื้อให้ดี เพื่อเปรียบเทียบระหว่าง ราคาตั๋ว Low – cost กับ ตั๋วแบบ Full service ที่คิดรวมค่าบริการทั้งหมดไว้ด้วยกัน และเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดออกมาแล้ว บางทีตั๋ว Low – cost อาจแพงกว่าด้วยซ้ำไป แต่ถ้าเดินทางแบบของน้อยมาก มีแค่กระเป๋าขึ้นเครื่องหนักไม่เกิน 7 kg และเดินทางไม่นาน โดยไม่จำเป็นต้องมีอาหาร จึงจะถือว่าคุ้ม 

9. ใช้ส่วนลดจากคะแนนบัตรต่าง ๆ 

สายการบินในปัจจุบัน มักจะมีพาร์ทเนอร์หลากหลาย เพื่อใช้เป็นส่วนลด จัดโปรโมชันต่าง ๆ โดยใช้แต้มจากบัตรเครดิต เดบิตร หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมสมัครเป็นเมมเบอร์ สะสมคะแนน แล้วนำมาใช้เป็นส่วนลด บัตรกำนัล Gift Voucher แลกไมล์ แลกตั๋วเครื่องบิน ดังนั้น ก่อนจะทำการกดจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบิน ลองเช็กบัตรต่าง ๆ ที่มีอยู่ หรือที่เป็นสมาชิก ซึ่งจะช่วยให้ได้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลงกว่าเดิม ดีไม่ดี อาจได้บินฟรีในทริปนั้น เหลือเงินไปเที่ยวต่อได้แบบฟิน ๆ 

The post เทคนิคซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูกต้องทำไง ให้เหลือเงินเที่ยวต่อแบบคุ้มสุด appeared first on PolicyAndResearchHub.

รถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดกี่สถานี 

รวมสถานีทั้งหมดที่ให้บริการโดยรถไฟฟ้าสายสีชมพู 30 สถานี ด้วยกัน 

รถไฟฟ้าสายสีชมพูใกล้สถานที่สำคัญอะไรบ้าง 

สำหรับสถานที่ใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ทั้ง 30 สถานี มีดังนี้ 

1. PK01 สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี : วัดบัวขวัญ ศาลจังหวัดนนทบุรี ศาลแขวงนนทบุรี ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ศาลแรงงานกลาง (นนทบุรี) ศาลากลางเก่า วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีจังหวัดนนทบุรี กระทรวงสาธารณสุข ห้างเอสพลานาด เกาะเกร็ด โรงแรมไมด้า 

2. PK02  สถานีแคราย : สถานทรวงอก 

3. PK03 สถานีสนามบินน้ำ : ถนนติวานนท์ใกล้กับสามแยกสนามบินน้ำ 

4. PK04 สถานีสามัคคี 

5. PK05 สถานีกรมชลประทาน 

6. PK06 สถานีแยกปากเกร็ด 

7. PK07 สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด : บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ 2 , โฮมโปร แจ้งวัฒนะ 

8. PK08 สถานีปากเกร็ด – แจ้งวัฒนะ 28 : อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค , สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ , กองดุริยางค์ตำรวจ , เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ 

9. PK09 สถานีศรีรัช : หมู่บ้านเมืองทองธานี 

10. PK10 สถานีเมืองทองธานี : สำนักงานซ่อมบำรุงกรมทางหลวง – ห้างแม็คโครซูเปอร์สโตร์ สาขาแจ้งวัฒนะ 

11. PK11 สถานีแจ้งวัฒนะ 14 : บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ 1 

12. PK12 สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ : ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 , กรมการกงสุล , กระทรวงการต่างประเทศ , ศาลปกครองสูงสุด , สำนักงาน กสทช. ภาค 1 

13. PK13 สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ : บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) , อาคาร ณ นคร , บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพ) 

14. PK14 สถานีหลักสี่ : โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ , ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ , วัดหลักสี่ , โรงเรียนวัดหลักสี่ , ศูนย์การค้าไอที สแควร์ 

15. PK15 สถานีราชภัฎพระนคร : มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร 

16. PK16 สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ : วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร . สถานีตำรวจนครบาลบางเขน , ที่ทำการไปรษณีย์รามอินทรา , มหาวิทยาลัยเกริก , สวนรักษ์ธรรมชาติ 

17. PK17 สถานีรามอินทรา 3 : ศูนย์พัฒนากิฬากองทัพบกและสนามมวยลุมพินี , โครงการลุมพินี รามอินทรา – หลักสี่ , เซ็นทรัล รามอินทรา 

18. PK18 สถานีลาดปลาเค้า : บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า รามอินทรา 

19. PK19 สถานีรามอินทรา กม.4 

20. PK20 สถานีมัยลาภ 

21. PK21 สถานีวัชรพล : ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา 

22. PK22 สถานีรามอินทรา กม 6 

23. PK23 สถานีคู้บอน 

24. PK24 สถานีรามอินทรา กม.9 : โรงพยาบาลสินแพทย์ 

25. PK25 สถานีวงแหวนรามอินทรา : สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 , ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และ The Promenade , สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา 

26. PK26 สถานีนพรัตน์ : โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี , อมอรินี่ รามอินทรา 

27. PK27 สถานีบางชัน 

28. PK28 สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ : โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ

29. PK29 สถานีตลาดมีนบุรี : ตลาดมีนบุรี , ตลาดจตุจักร 2 มีนบุรี 

30. PK30 สถานีมีนบุรี : ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีชมพู , จุดจอดรถแล้วจร (Park and Ride) , เคหะรามคำแหง , บิ๊กซี ร่มเกล้า , ไทวัสดุ สุขาภิบาล 3 

รถไฟฟ้าสายสีชมพูเชื่อมต่อที่ไหนบ้าง 

สามารถเปลี่ยนการเดินทางจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู ไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นได้อีก 3 สาย ได้แก่ 

• สายสีม่วง : (PK01) บางใหญ่ – บางซื่อ 
• สายสีแดง :  (PK14) บางซื่อ – รังสิต 
• สายสีเขียว : (PK16) หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต

ส่วนขยายเชื่อมต่อ “อิมแพ็ค เมืองทองธานี” 

นอกจากนี้รถไฟฟ้าสายสีชมพูยังมีสถานีส่วนขยาย ช่วงสถานีศรีรัช – เมืองทองธานี โดยเชื่อมต่อที่ PK10 สถานี เมืองทองธานี ซึ่งมีสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย อีก 2 สถานี โดยมีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ได้แก่ 

• MTO1 สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี 
• MTO2 สถานีทะเลสาบเมืองทองธานี 

โดยอัพเดทความก้าวหน้าล่าสุดของโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช – เมืองทองธานี เมื่อเดือนตุลาคม 2566 โดยด้านงานโยธามีความคืบหน้า ประมาณ 41.76% ส่วนงานระบบไฟฟ้า ประมาณ 23.34% เมื่อวิเคราะห์ความก้าวหน้ารวมกัน เกิน 35%  จึงคาดว่าส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูแล้วเสร็จ และสามารถให้เปิดบริการได้ภายในปี 2568

The post สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีสถานีอะไรบ้าง เช็กให้ชัวร์ก่อนใช้บริการ appeared first on PolicyAndResearchHub.

ดังนั้น เพื่อป้องกันการขาดโปรตีน แอดมินมี 5 อาหารที่มีโปรตีนจากพืชสูง ไม่แพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์มาให้ชาวกินผักทั้งหลายได้นำไปเสาะหามาติดบ้านไว้ และควรทานเป็นประจำ เพื่อช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง แม้จะไม่ทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์เลยก็ตาม 

1. ข้าวโอ๊ต 

ข้าวโอ๊ต เป็นแหล่งโปรตีนที่นิยมในผู้ที่รักสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสายมังสวิรัติ สายวีแกน หรือทานอาหารปกติทั่วไป เนื่องจากข้าวโอ๊ตมีโปรตีนสูง อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ และสารอาหารอื่น ๆ ที่ร่างกายต้องการ ช่วยชะลอการดูดซึม และช่วยลดการสะสมไขมันหน้าท้อง โดยในข้าวโอ๊ตอบแห้งประมาณ 120 กรัม จะให้โปรตีนถีง 6 กรัม และใยอาหารอีก 4 กรัม ซึ่งมีให้เลือกทานหลากหลาย ไม่จำเจ ไม่ว่าจะเป็น นมข้าวโอ๊ต โจ๊กข้าวโอ๊ต ขนมปังข้าวโอ๊ต โปรตีนบาร์ 

2. เมล็ดเจีย 

เมล็ดเจีย เป็นธัญพืชขนาดเล็ก แต่มีโปรตีนสูงมาก โดยในเมล็ดเจีย 35 กรัม มีโปรตีนถึง 6 กรัม และมีใยอาหารถึง 13 กรัม แถมยังมีธาตุเหล็ก แคลเซียม แมนนีเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ และ โอเมก้า 3 โดยเมล็ดเจียจะดูดน้ำและพองตัวคล้ายกับเมล็ดแมงลัก ช่วยให้กินแล้วอิ่มอยู่ท้องได้นาน จึงเป็นที่นิยมเป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก และเป็นอาหารของคนรักสุขภาพ

3. เทมเป้ 

เทมเป้ คือ ถั่วเหลืองหมัก เป็นอาหารสัญชาติอินโนนีเซีย ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะชาววีแกน และคนที่นิยมทานอาหารมังสวิรัติ เพื่อทดแทนการขาดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เนื่องจากเทมเป้ 100 กรัม ให้โปรตีนสูงถึง 19 กรัม แถมยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย มีวิตามิน และไฟเบอร์สูง และถ้ากินเทมเป้แบบสด ๆ จะได้จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบลำไส้อีกด้วย 

4. ควินัว 

ควินัว ได้ชื่อว่าเป็น Super food ของสายรักสุขภาพมาอย่างยาวนาน เนื่องจากควินัว อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไฟเบอร์ และไขมันดี มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยในควินัว 100 กรัม จะให้โปรตีน ประมาณ 8 กรัม อีกทั้งควินัวยังทานง่าย เคี้ยวเพลิน และมากไปด้วยคุณประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกาย จึงทำให้เป็นยอดอาหารชาววีแกนควรหามาติดบ้านและเลือกทานเป็นประจำ 

5. เมล็ดกัญชง 

Hemp seed หรือ เมล็ดกัญชง เป็น new super food ที่มาแรงทางฝั่งยุโรปเลยทีเดียว เพราะในเมล็กกัญชง 100 กรัม มีโปรตีนสูงถึง 30 กรัม หรือ ถ้าเทียบเมล็กกัญชง 3 ช้อนโต๊ะ จะให้สารโปรตีนเกือบ ๆ 10 กรัมเลยทีเดียว จึงทำให้เมล็ดกัญชงกลายเป็นอีกอาหารสุขภาพยอดฮิต รวมถึงชาววีแกนเช่นกัน 

The post 5 โปรตีนจากพืช มีโปรตีนสูงเทียบเท่าเนื้อสัตว์ ที่ชาววีแกนควรหามากิน appeared first on PolicyAndResearchHub.

เจ้าแม่กวนอิมคือใคร 

เจ้าแม่กวนอิม คือ มหาโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร ในทางพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน โดยมีต้นกำเนิดมาจากพระสูตรมหายานในอินเดีย ผสมผสานกับความเชื่อของจีน จากตำนานเรื่องพระธิดาเมี่ยวซ่าน ผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตาปราณี และมากล้นไปด้วยควาาอ่อนโยนต่อสรรพสัตว์น้อยใหญ่ เป็นที่เคารพอย่างมากของชาวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง รวมถึงชาวไทยเชื้อสายจีน และผู้ที่เคารพนับถือท่านส่วนใหญ่จะงดเว้นจากการบริโภคสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว เนื้อควาย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่า หากสวดคาถาบูชาเจ้าแม่กวนอิม 108 จบทุกวัน ควบคู่ไปกับการรักษาศีล 5 และตั้งจิตอธิฐานอย่างตั้งใจ จะประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

วิธีไหว้บูชาพระแม่กวนอิม 

การไหว้เจ้าแม่กวนอิม ด้วยการจัดเตรียมสิ่งต่อไปนี้ 

• น้ำชาจีน 1 ถ้วย 
• ผลไม้ 2 สิ่ง (ยกเว้น มังคุด ละมุด พุทรา) 
• ดอกบัว 5 ดอก 
• ธูป 5 ก้าน (หากไม่สะดวก สามารถละเว้นได้) 

บทสวดเจ้าแม่กวนอิม 

บทสวดกวนอิมผ่อสัก 

(บทสวดนี้เป็นบทสรรเสริญพระคุณ นำโม กวงซีอิม ผ่อสัก )

นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ) 

นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ) 

นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล้งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ) 

นำโมฮุก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโคว่ กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก ทั่งจี้โต 

โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต 

ซาผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งลี่ซิ้ง เจ็กเฉียก ใจเอียงห่วยอุ่ยติ้ง 

นำโมม่อออปวกเยี่ยปอล้อบิ๊ก (กราบ) 

บทสวดเจ้าแม่กวนอิมแปลไทย 

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ 

พระผู้เปี่ยมล้นด้วยพระมหาเมตตา พระมหากรุณอันยิ่งใหญ่ไพศาล 

ขอได้โปรดบำบัดทุกข์โศก โรคภัยอันตรายทั้งปวง 

ข้าพเจ้าขอน้อมถึง พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ 

พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ 

ขอได้โปรดขจัดปัดเป่าทุกข์โศก โรคภัยทั้งปวงให้หมดสิ้นไป 

ขอความสุข สมปรารถนาทุกประการ จงมีแก่ข้าพเจ้า 

ขอเทพเจ้าเบื้องบน และเทพเจ้าเบื้องล่างทั้งหมด 

ได้โปรดปัดเป่าให้เวรกรรม และสรรพเคราะห์ทั้งมวล จงหมดสิ้นไป  

บทสวดมหากรุณาธารณีสูตร 

โชยชิ่ว โชยงั่ง บ่อไหง๋ ไต่ปุยซิมทอลอ นีจิ่ว (3 จบ) 

ปึงซือออนีทอ ยูไล้ (3 จบ) 

นำมอ ฮอลาตัน นอตอลา เหย่ เย 

นำมอออลีเย ผ่อลูกิดตีวอปอลาเย 

ผู่ทีสัตตอพอเย หม่อฮอสัตตอพอเย 

หม่อ ฮอเกียลูนี เกียเยงัน สัตพันลาฮัวอี 

ซูตัน นอตันเซ

นำมอ สิดกิด ลีตออีหม่งออลีเย 

ผ่อลูกิด ตีสิด ฮูลาเลงถ่อพอ 

นำมอ นอลา กินซี 

ซีลี หม่อฮอพันตอซาเม 

สะพอ ออทอ เตาซีพง 

ออซีเย็น สะพอ สะตอ นอมอ พอสะตอ 

นอมอ พอเค มอฮัว เตอเตา 

ตันจิต ทองัน ออพอ ลูซี 

ลูเกียตี เกียลอตี อีซีลี 

หม่อฮอ ผู่ทีสัตตอ สัตพอ สัตพอ 

มอลา มอลา มอซี มอซี ลีทอยิน 

กีลูกีลูกิดมง ตูลู ตูลู ฟาเซเยตี 

หม่อ ฮอฮัว เซเยตี ทอลา ทอลา 

ตีลีนี สิด ฮูลาเย เจลา เจลา มอมอ ฮัวมอลา หมกตีลี 

อีซี อีซี สิดนอ สิดนอ ออลาซัน ฮูลาเซลี 

ฮัวซอ ฮัวซัน ฮูลา เซเย 

ฮูลู ฮูลู มอลา ฮูลู ฮูลู ซีลี ซอลา ซอลา 

สิดลี สิดลี ซูลู ซูลู ผู่ถี่เย ผู่ถี่เย ผู่ถ่อเย ผู่ถ่อเย 

มีตีลีเย นอลา กินซี ตีลีสิด นีนอ 

ผ่อเย มอนอ ซอผ่อฮอ สิดถ่อเย ซอผ่อฮอ 

หม่อฮอ สิดถ่อเย ซอผ่อฮอ สิดทอยีอี 

สิดพันลาเย ซอผ่อฮอ นอลากินซี ซอผ่อฮอ 

มอลานอลา ซอผ่อฮอ สิดลาเซง ออหมกเคเย 

ซอผ่อฮอ ซอผ่อหม่อฮอ ออสิดถ่อเย ซอผ่อฮอ 

เจกิดลา ออสิดถ่อเย ซอผ่อฮอ ปอทอมอกิดสิดถ่อเย 

ซอผ่อฮอ นอลากินซี พันเคลาเย ซอผ่อฮอ 

มอพอลี เซงกิดลาเย ซอผ่อฮอ 

นำมอห่อลาตัน นอตอลาเยเย 

นำมอออลีเย ผ่อลูกิตตี ชอพันลาเย ซอผ่อฮอ

งันสิดตินตู มันตอลา ปัดถ่อเย ซอผ่อฮอ 

The post วิธีไหว้บูชาเจ้าแม่กวนอิม และบทสวดเจ้าแม่กวนอิมช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ  appeared first on PolicyAndResearchHub.

ดาวเทียม THEOS-2 คืออะไร 

THEOS-2 อ่านว่า ธีออส 2 โดยชื่อ THEOS ย่อมาจากคำว่า Thialand Earth Observation Satellite หมายถึง ระบบสำรวจพื้นผิวโลก โดยใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายจากประเทศไทย โดยคำว่า THEOS แปลว่า “พระเจ้า” ที่พ้องกับภาษากรีก 

THEOS-2 คือ ดาวเทียมระดับปฏิบัติการสำรวจโลกที่มีความละเอียดสูงมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งดาวเทียมสำรวจของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่ประเทศไทยในอนาคต ซึ่งผลิตโดย บริษัท Airbus Defense ประเทศฝรั่งเศส และนับว่าเป็นดาวเทียมของประเทศไทย ดวงที่ 7 ที่มีการนำปล่อยโดย Arianespace บริษัทรับบริการปล่อยดาวเทียมสู่วงโคจรทุกรูปแบบ 

THEOS-2 มีหน้าที่ทำอะไร

ดาวเทียม THEOS-2 หรือ ดาวเทียมธีออส-2 ผลิตโดย เป็นดาวเทียมสำรวจโลกความละเอียดสูงมาก สามารถถ่ายภาพและผลิตภาพสีรายละเอียดที่สูงมาก ๆ พร้อมกับส่งข้อมูลกลับมายังสถานีภาคพื้นดินไม่ต่ำกว่า 74,000 ตร.กม. / วัน โดยจะทำการบันทึกภาพพื้นผิวโลก ทั้งในส่วนของประเทศไทยและพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศให้ทันสมัย มีความละเอียด ช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม บรรเทาด้านภัยพิบัติ จัดการวางแผนผังเมือง บริหารจัดการพื้นที่การเกษตร และ ทรัพยากรธรรมชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ภารกิจของ THEOS-2 คือ การเก็บข้อมูลโดยการถ่ายภาพพื้นผิวโลกของเราเสริมส่งกับดาวเทียมไทยโชตหรือ THEOS-1 ที่ส่งขึ้นไปเมื่อปีพ.ศ. 2551 และ THEOS-2 นับว่าเป็นดาวเทียมของประเทศไทย ดวงที่ 7 ที่ทำการปล่อยโดย Arianespace ซึ่งเป็นบริษัทรับบริการปล่อยดาวเทียมสู่วงโคจรทุกรูปแบบ ซึ่งจะทำการนำส่ง THEOS-2 สู่วงโคจรอวกาศที่มีชื่อว่า “Vega” ด้วยระบบ Rideshare คือ การนำส่งดาวเทียมระดับปฏิบัติการ ซึ่งมีภารกิจอื่น ๆ อีก 12 ภารกิจ ซึ่งจะนำขึ้นไปวงโคจรสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ Sun Synchronous Orbit : SSO) โดยมีลักษณะการโคจรผ่านขั้วโลกในตำแหน่งเดิมเสมอ ส่งผลให้ดาวเทียมสามารถโคจรผ่านตำแหน่งเดิมในเวลาท้องถิ่นเดิมได้ตลอด ช่วยให้เก็บข้อมูลได้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง 

THEOS-2 เหมือนหรือต่างจาก THEOS-1

THEOS-1 หรือ ดาวเทียมไทยโชต คือ ดาวเทียมรายละเอียดสูงที่ถูกส่งขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนห้วงอวกาศ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 จากฐานปล่อยจรวด ณ เมืองยาสนี ประเทศรัสเซีย โดยมี “เนปเปอร์” เป็นจรวดนำส่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้มีการนำส่งดาวเทียมชนิดนี้ หน้าที่ของ THEOS-1 คือ เก็บข้อมูลภาพถ่ายร่วมกับดาวเทียมดวงอื่น ๆ จากทั่วโลก หลังจากที่ถูกใช้งานมาแล้วจนครบ 15 ปี จึงได้มีการจัดส่ง THEOS-2 ที่ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้นานเป็นเวลา 10 ปี หรือจนถึงปี 2576 เพื่อขึ้นไปรับช่วงต่อไทยโชต แต่อาจใช้งานได้นานเท่ากับหรือได้นานกว่าไทยโชต เนื่องจากเทคโนโลยีการออกแบบจากทีมวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างและพัฒนาดาวเทียมจากบริษัท Airbus Defense ณ ประเทศฝรั่งเศส

The post ชวนรู้จักดาวเทียมของไทย THEOS-2 ประโยชน์และหน้าที่คืออะไร appeared first on PolicyAndResearchHub.

1. ทหาร ตำรวจ 

อาชีพทหาร และ ตำรวจ คืออาชีพที่มั่นคง เป็นที่ยอมรับในสังคม แต่ก็เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง เกิดการสูญเสียได้ตลอดเวลา ทำให้หลาย ๆ ธนาคาร รวมไปถึงแหล่งปล่อยเงินสินเชื่อหลาย ๆ แห่ง มักจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้กับอาชีพดังกล่าว อีกทั้งความเสี่ยงของการติดตามทวงหนี้ ที่อาจเป็นไปได้ยากหรือหนี้สูญ เพราะอาชีพเหล่านี้มีอาวุธป้องกันติดตัว อาจเกิดเหตุปะทะจนถึงขั้นรุนแรง จากการทวงถามหนี้ได้ จึงเป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ธนาคารปฏิเสธการปล่อยเงินกู้ ยกเว้น ทหารและตำรวจที่เป็นแพทย์ อย่าง แพทย์ทหาร แพทย์ตำรวจ 

2. เจ้าของกิจการก่อสร้าง และ อสังหาริมทรัพย์ 

สำหรับธนาคาร Non Bank ทั่วไป หลาย ๆ แห่ง จะไม่ปล่อยสินเชื่อเงินกู้ให้กับเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าของกิจการก่อสร้าง เนื่องจากการขอกู้ของกลุ่มลูกค้าประเภทนี้ มักจะอยู่ในวงเงินที่สูง และยังมีความเสี่ยงต่อกิจการล้มละลาย อาจเป็นปัญหาต่อการชำระเงินกู้คืนแก่ธนาคารในอนาคต แต่ถ้าเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อาจมีการปล่อยกู้ให้กับเจ้าของกิจการประเภทนี้ได้ 

3. อาชีพ Freelance หรือ พนักงานชั่วคราว 

อาชีพฟรีแลนซ์กู้เงินได้ไหม? คำถามที่มักได้ยินบ่อย ๆ เพราะต้องยอมรับว่า ยุคนี้ มีหลายคนยึดอาชีพเป็นฟรีแลนซ์มากขึ้น แต่เนื่องจากอาชีพ Freelance มักจะมีรายได้ที่ไม่แน่นอน แม้ว่าบางคนอาจมีรายได้สูงกว่าพนักงานประจำ แต่ไม่มีหลักประกันยืนยันที่แน่ชัดในเรื่องของรายได้ที่มั่นคง อาจกระทบต่อการชำระหนี้ให้กับธนาคารที่ปล่อยกู้ได้ ทำให้พนักงานชั่วคราว หรือ คนที่ทำงาน freelance ถูกปฏิเสธจากธนาคารในเรื่องของการยื่นขอกู้เงิน และยังถูกตัดสิทธิ์ในการทำบัตรเครดิตเสียส่วนใหญ่ แต่ถ้าทำงานฟรีแลนซ์แต่มีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน มีความเคลื่อนไหวในบัญชีสม่ำเสมอ บางธนาคารก็อาจรับพิจารณา

4. อาชีพที่รับเงินรายวัน 

อาชีพที่รับเงินรายรายวัน เช่น พ่อค้าหาบเร่ แม่ค้าแผงลอย อาชีพรับจ้างอิสระ ที่รายได้ไม่แน่นอน จะได้เงินมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลูกค้าในแต่ละวัน หรือคนจ้างงาน ทางธนาคารมักจะไม่รับพิจารณาการกู้เงิน เพราะมีความเสี่ยงที่ธนาคารอาจไม่ได้รับการชำระหนี้คืน หรือได้เงินคืนไม่ครบตามกำหนด ทำให้อาชีพเหล่านี้ต้องไปกู้เงินนอกระบบ

5. อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพนัน 

อาชีพที่ทำเกี่ยวกับการพนัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ่อน หรือ พนักงานในบ่อนการพนัน คือ อาชีพที่ไม่มีความแน่นอนในการเงิน ได้มาและหายไปได้ในไม่กี่นาที และยังมีความเสี่ยงสูงที่บ่อนการพนันจะถูกปิดตัวลง อาจจะด้วยทางระบบกฏหมาย หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ทำให้อาชีพการพนันทุกชนิด ถูกปฏิเสธการให้กู้เงินจากธนาคาร หากใครที่มีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ถึงแม้ว่าจะเป็นพนักงาน แต่ต้องการยื่นเรื่องเงินกู้ ก็ถูกตัดสิทธิ์ทันที ทำให้ต้องไปกู้เงินนอกระบบแทน 

อาชีพที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง และมีรายได้ไม่แน่นอน เป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการถูกปฏิเสธการปล่อยเงินกู้จากธนาคาร ดังนั้น ผู้ที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ จึงต้องมีการวางแผนการเงินดี ๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิต และจะได้ไม่ต้องไปทำเรื่องกู้ยืมเงินนอกระบบ ที่อาจมีการชำระหนี้สินสูงกว่ายอดเงินที่กู้ยืมมา หรือกู้ยืมเฉพาะในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น เพราะต้นทุนชีวิตและความจำเป็นในการใช้จ่ายของคนเราไม่เท่ากัน แต่การจัดสรรเงินที่เป็นระบบ และใช้จ่ายอย่างมีสติ จะช่วยประคับประคองให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้อย่างไม่เป็นหนี้สินใคร 

The post 5 อาชีพที่ธนาคารไม่ปล่อยเงินกู้ มีอะไรบ้าง  appeared first on PolicyAndResearchHub.

คุณค่าทางโภชนาการของพริก โดยในพริกขี้หนูและพริกชีฟ้า 100 กรัม มีดังนี้ 

• พลังงาน 103 กิโลแคลอรี 
• ไขมัน 2.4 กรัม
• คาร์โบไฮเดรต 19.9 กรัม 
• โปรตีน 4.7 กรัม
• ใยอาหาร 6.5 กรัม
• แคลเซียม 45 มิลลิกรัม 
• ฟอสฟอรัส 85 มิลลิกรัม 
• เหล็ก 2.5 มิลลิกรัม 
• วิตามิน A 11,050 I.U.
• ไธอะมีน 0.24 มิลลิกรัม 
• ไรโบเฟลวิน 0.29 มิลลิกรัม 
• ไนอะซีน 2.10 มิลลิกรัม 
• วิตามิน C 70 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของพริก 

1. สลายลิ่มเลือดให้คืนสู่ปกติ 

สารละลายลิ่มเลือดได้ดี ช่วยป้องกันไม่ให้เลือดจับตัวเป็นก้อน หรือเกาะกลุ่มกันจนไปอุดตันในหลอดเลือด ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูง 

2. กระตุ้นให้อยากอาหาร

พริกจะเข้ากระตุ้นปลายประสาทให้สมองส่วนกลางรับรู้การอยากอาหาร และกระตุ้นต่อมน้ำลายให้ทำงานมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกอยากอาหาร เมื่อทานอาหารรสเผ็ด จะยิ่งทานอาหารได้มากขึ้น

3. บรรเทาอาการปวดต่าง ๆ 

คุณสมบัติของสารแคปไซซิน ช่วยลดอาการเจ็บปวดที่ผิวหนัง หรืออาการปวดเมื่อยได้ โดยมักจะมีการนำพริกแปรรูปเป็นขี้ผึ้ง ครีม สำหรับใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาอาการเจ็บปวด 

4. ขับเสมหะ ช่วยให้ระบบหายใจคล่อง 

ความเผ็ดร้อนของพริกจะกระตุ้นน้ำมูก หรือน้ำตาให้ไหลออกมา ช่วยขับล้างสิ่งกีดขวางในระบบทางเดินหายใจ ขับเสมหะ ทำให้รู้สึกโล่งคอ บรรเทาอาการเจ็บคอ หายใจสะดวกขึ้น

5. พริกมีวิตามินซี และ สารเบต้าแคโรทีน 

วิตามินซีในพริก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตาได้ 

6. กระตุ้นสารเอ็นโดรฟิน รู้สึกผ่อนคลาย 

สารแคปไซซินในพริก ช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphins) สารส่งผ่านเส้นประสาท  ผลิตต่อมใต้สมอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนตามธรรมชาติ ช่วยลดความเครียด ความเจ็บปวด ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น เป็นสารแห่งความสุข 

7. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 

เพราะสารบางชนิดในพริกช่วยยับยั้งการดูดซึมของน้ำตาลกลูโคสได้ จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลง และสารแคปไซซินช่วยยับยั้งไม่ให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) แต่ช่วยเพิ่มคอเรสเตอรอลชนิดดี (HDL) ให้กับร่างกาย 

8. ช่วยลดน้ำหนัก 

สาร Themoginic หรือสารสร้างความร้อนในพริก จะเข้าไปกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย อีกทั้งยังมีกรดแอสคอร์บิก ที่ช่วยเปลี่ยนไขมันในร่างกายให้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น จึงดีต่อผู้ที่ลดน้ำหนัก 

เห็นได้ว่า พริก พืชรสเผ็ดร้อนที่ควบคู่กับเมนูอาหารไทยหลายชนิด นอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อย น่าทานมากขึ้น ยังมีประโยชน์ดี ๆ จากสารในพริกอีกมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม ควรทานอาหารรสเผ็ด หรืออาหารที่มีพริกเป็นส่วนประกอบแต่เพียงพอดี หากทานมากไป ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกันค่ะ 

The post นอกจากรสเผ็ดร้อน พริก มีประโยชน์อะไรบ้าง   appeared first on PolicyAndResearchHub.